กรมการแพทย์เตือนภัย มะเร็งตับและท่อน้ำดี แนะเลี่ยงกินอาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ

เขียนโดย 

 

พบมากภาคอีสานและภาคเหนือ ชี้เกิดจากการดื่มเหล้า กินอาหารขึ้นรา พร้อมแนะเลี่ยงอาหารสุกๆ ดิบๆ เช่น ปลาน้ำจืดที่มีเกร็ด เนื้อสัตว์รมควัน ปิ้ง ย่าง ทอดจนไหม้เกรียม และควรฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบชนิดบีในเด็กแรกเกิดเพื่อป้องกันภัยร้ายมะเร็งตับและท่อน้ำดี

นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีโครงการตรวจคัดกรอง วินิจฉัย โรคมะเร็งตับและ ท่อน้ำดี ที่โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี ว่า โรคมะเร็งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ซึ่งสถิติของกระทรวงสาธารณสุข ปี 2554 พบว่าคนไทยเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับและ ท่อน้ำดี จำนวน 14,314 ราย เกินกว่าครึ่งเป็นคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือประมาณจำนวน 7,539 ราย รองลงมาคือภาคเหนือ จำนวน 2,638 ราย ในแต่ละปีประเทศไทยมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งรายใหม่ประมาณ 20,000 คนต่อปี จึงถือเป็นโรคที่รุนแรง ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต และส่งผลกระทบต่อคนวัยทำงานช่วงอายุ 45-55 ปี มากที่สุด
 
จะเห็นได้ว่าโรคมะเร็งตับและ ท่อน้ำดีเป็นโรคร้ายที่คุกคามชีวิตของประชากรไทย ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้มักไม่แสดงอาการ การค้นพบระยะเริ่มแรกและได้รับการรักษาที่รวดเร็วจะทำให้มีโอกาสรักษาให้หาย ขาดได้ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะได้รับการตรวจวินิจฉัยในระยะที่โรคลุกลามไปมากและ ไม่สามารถผ่าตัดได้แล้ว
 
ดังนั้น กรมการแพทย์โดยโรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานีร่วมกับมูลนิธิมะเร็งตับและท่อน้ำดี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงจัดทำโครงการตรวจคัดกรอง วินิจฉัย โรคมะเร็งตับและท่อน้ำดี เพื่อค้นหาและคัดกรองกลุ่มเสี่ยงโรคมะเร็งตับและ ท่อน้ำดีระยะเริ่มต้น เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนรักษาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดอัตราการเสียชีวิตและลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของประชาชนและภาครัฐได้ รวมทั้งสร้างภาคีเครือข่าย และพัฒนาความร่วมมือและการรักษามะเร็งตับและท่อน้ำดีอย่างมีประสิทธิภาพ
 
อธิบดีกรมการแพทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งตับและ ท่อน้ำดีได้แก่ โรคไวรัสตับอักเสบ ชนิดบี พยาธิใบไม้ในตับ สารเคมีต่างๆ สารพิษที่เกิดจากเชื้อรา อาหารหมักดอง การดื่มสุรา สิงผิดปกติที่พบและควรปรึกษาแพทย์ คือ เบื่ออาหาร แน่นท้อง ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็นประจำ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด มีไข้ต่ำ ปวดหรือเสียดชายโครงด้านขวา อาจคลำก้อนได้ ตัวเหลือง ตาเหลือง ท้องโตและบวมบริเวณขาทั้งสองข้าง
 
สำหรับการรักษามีหลายวิธี คือ การผ่าตัด การใช้ยาเคมี และการฉายแสง สำหรับวิธีการที่ดีที่สุดการป้องกันการเกิดโรคโดยการให้วัคซีนไวรัสตับ อักเสบชนิดบีในเด็กแรกเกิดทุกคน ไม่รับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ โดยเฉพาะปลาน้ำจืดดิบ เพื่อป้องกันการติดพยาธิใบไม้ตับ และควรเลี่ยงอาหารที่มีสารก่อมะเร็งได้แก่ อาหารที่มีราขึ้นหรือใส่ดินประสิว อาหารหมักดอง เนื้อสัตว์รมควัน ปิ้ง ย่าง ทอดจนไหม้เกรียม งดสูบบุหรี่ งดดื่มสุรา ลดความเครียด และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ผู้ป่วยที่มีโรคตับเรื้อรังหรือมีประวัติเป็นโรคตับอักเสบ ควรได้รับการตรวจหามะเร็งอย่างสม่ำเสมอ
 
ที่มา..โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ภาพประกอบข่าว
ปรับปรุงล่าสุดเมื่อ วัน, วันที่ เดือน ปี ชม:นาที