ดื่มกาแฟเป็นประจำ วันละ 3-5 ถ้วย จะช่วยลดความเสี่ยง และป้องกันโรคอัลไซเมอร์ โรคสมองเสื่อม เพราะกาแฟมีสารคาเฟอีนและโพลีฟินอล เป็นตัวการสำคัญ
ผลการวิจัยใหม่ต่อที่ประชุมประจำปีโรคอัลไซเมอร์แห่งยุโรป ประจำปี 2014 ระบุว่า ในกาแฟมี สารคาเฟอีนและโพลีฟินอลนั่นเองที่น่าจะเป็นตัวการสำคัญ ซึ่งจะช่วยป้องกันการก่อตัวของโรคสมองเสื่อม ผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ 5 ถ้วยต่อวัน อาจช่วยจำกัดโอกาสที่จะบุคคลนั้นจะล้มป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ลงได้ราว 20 เปอร์เซ็นต์
ทีมวิจัยภายใต้การนำของ อัฟรัม อิครัม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาของโรคทางระบบประสาทแห่งศูนย์การแพทย์อีรา สมุส ในเมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ นำเสนอผลการวิจัยใหม่ต่อที่ประชุมประจำปีโรคอัลไซเมอร์แห่งยุโรป ประจำปี 2014 นี้ ที่นครกลาสโกว์ แคว้นสกอตแลนด์ เมื่อเร็วๆ นี้ ระบุว่า ผู้ที่ดื่มกาแฟเป็นประจำ 5 ถ้วยต่อวัน อาจช่วยจำกัดโอกาสที่จะบุคคลนั้นจะล้มป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ลงได้ราว 20 เปอร์เซ็นต์
เหตุผลสำคัญที่ทำให้กาแฟช่วยป้องกันอัลไซเมอร์นั้นเนื่องจากกาแฟมีคาเฟอีน ซึ่งจะช่วยป้องกันการก่อตัวของคราบสารแอมีลอยด์และอาการกลุ่มเส้นใยประสาท พันกัน หรือนิวโรไฟบริลลารี แทงเกิลส์ (เอ็นเอฟที) ที่เป็นตัวการสำคัญสองอย่างที่ก่อให้เกิดโรคสมองเสื่อม ที่ยังหาทางรักษาไม่ได้อยู่ในเวลานี้
ทีมวิจัยตรวจสอบส่วนประกอบของกาแฟอย่างละเอียด เพื่อหาสิ่งที่ทำหน้าที่ป้องกันอาการดังกล่าวนั้นในสมอง พบว่าคาเฟอีนและโพลีฟินอลนั่นเองที่น่าจะเป็นตัวการสำคัญ ทั้งนี้ นอกเหนือจากการทำหน้าที่ป้องกันการเกิดแอมีลอยด์และเอ็นเอฟทีแล้ว คาเฟอีนกับโพลีฟินอลยังช่วยลดอาการอักเสบในสมอง และลดการเสื่อมสภาพของเซลล์สมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสมองส่วนฮิปโปแคมปัสและคอร์เท็กซ์ ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับความจำนั่นเอง ทีมวิจัยพบว่า การดื่มกาแฟเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอัลไซเมอร์ โดยปริมาณที่ทำให้เกิดป้องกันได้สูงสุดคือระหว่าง 3-5 ถ้วยต่อวัน
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ