อยู่มาวันหนึ่ง กลางฤดูร้อน อากาศร้อนอบอ้าว เกิดลมพายุใหญ่ พัดอยู่เป็นเวลานาน ต้นไผ่ในป่าเสียดสีกันจนเกิดไฟลุกไหม้ ประกอบกับแรงลมช่วยกระพือโหมพัดหนัก ไฟก็ยิ่งลุกลาม...ไม่นานก็กลายเป็นไฟป่าเผา ผลาญออกไปเป็นบริเวณกว้าง
ไฟป่าลุกลามต่อไปไม่หยุด...บรรดาสัตว์ใหญ่น้อยมากมายที่อาศัยอยู่ ในป่าไผ่บนภูเขาต่างตื่นตระหนก พากันหนีเอาชีวิตรอดอย่างโกลาหล ที่บินได้ ก็บินที่วิ่งได้ก็วิ่งสุดชีวิต ที่คลานได้ก็ลนลานคลานไปให้ถึงที่สุด น่าเวทนาก็แต่ เหล่าบรรดาลูกนกลูกสัตว์ที่เพิ่งจะเกิด ไม่สามารถจะขยับไปไหนได้ ล้วนต้องถูกไฟคลอกตายไปสิ้น
ขณะนั้นนกแก้วตัวหนึ่ง เมื่อเห็นฝุงสัตว์ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งที่กำลังวิ่งหนีกันอยู่ ต่างก็เหนื่อยล้าอ่อนแรงจนหนีต่อไปไม่ไหวแล้ว มันรู้สึกร้อนใจอย่างยิ่ง
นกแก้วคิดว่า... "สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงเหล่า นึ้ ช่างเคราะห์ร้ายเสียจริง ๆ ถูกภัยคุกคามจนต้องพลัดพรากจากถิ่นที่อยู่อาศัย พ่อลูกตายจาก กระทั่งตัวเองก็ยังไม่รู้ว่าจะรอดชีวิตหรือไม่ ช่างเป็นสภาพที่ทุกข์ยากลำบากแสนสาหัสเสียเหลือเกิน เราควรจะทำอย่างไรดี ?"
สักครู่...เมื่อรวบรวมสติได้ มันจึงบินย้อนกลับไปยังลำธารน้ำเล็ก ๆ ที่ชายป่า พอไปถึงก็พุ่งตัวลงจุ่มในธารน้ำจนขนเปียกชุ่มทั้งตัว จากนั้นก็บิน กลับไปกระพือปีกสะบัดน้ำที่อยู่ในขนออกมารดไฟป่าที่กำลังไหม้อยู่
อนิจจา...ไฟป่าซึ่งลุกลามใหญ่โต กินอาณาบริเวณกว้างหลายร้อยไร่ มีหรือที่น้ำจากขนนกเพียงไม่กี่หยดจะหยุดยั้งมันได้ แต่สำหรับนกแก้วน้อย ๆ ตัวนี้ มันไม่คิดจะย่อท้อ
เพื่อที่จะนำหยดน้ำมาดับไฟป่า...มันบินกลับไปที่ธารน้ำเล็ก ๆ แล้วบิน กลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า จากสิบเที่ยวเป็นร้อยเที่ยวพันเที่ยวโดยไม่ยอมหยุด
การกระทำของนกแก้วตัวนี้สะเทือนถึงฟ้าเบื้องบนส่งผลให้เวชยันต์ทิพยวิมานอันเป็นที่ประทับของพระอินทร์สั่นสะเทือนเลื่อน ลั่น ครั้นพระอินทร์ ผู้เป็นราชาแห่งเทพทั้งปวงตรวจดูก็รู้ว่า บัดนี้ ณ เบื้องล่างมีนกแก้วที่กล้าหาญ มุ่งมั่นตัวหนึ่ง กำลังพยายามจะดับไฟป่าที่ลุกลามอยู่ทั่วภูเขา
พระองค์จึงเสด็จลงมายังที่เกิดเหตุ และตรัสแก่นกแก้วว่า..."เปลวเพลิงโหมไหม้แผ่กว้างไปไกลถึง 100 ลี้ ตัวเจ้าเป็นเพียงนกตัวเล็ก ๆ จะสามารถดับไฟได้อย่างไรเล่า ? จงเลิกล้มความตั้งใจเสียเถิด"
แต่นกแก้วกลับกราาบทูลตอบว่า..."มีสรรพสัตว์ มากมายที่ดำรงชีวิตอยู่ในป่าไผ่แห่งนี้ หากป่าไผ่ถูก เผาเป็นเถ้าธุลี พวกเขาก็ไร้ที่พักพิง และหากไฟยังคงลุกลามต่อไปไม่หยุด สัตว์อีกมากมายจะต้องล้มตายลงอย่างน่าเวทนา ข้าพเจ้าจะไม่ใส่ใจได้ อย่าไร? ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะมีกำลังไม่มาก ขอเพียงดับไฟป่านี้ได้ แม้จะต้อง เหนื่อยจนตายข้าพเจ้าก็ยินดี !"
กล่าวจบนกแก้วก็กราบทูลลา แล้วบินกลับไปที่ลำธารอีก พระอินทร์ ทรงตื้นตันพระทัยในเมตตาจิตอันหลั่งล้นของนกแก้วตัวน้อยยิ่งนัก จึงทรงบัญชาให้พระวิรุณเทพแห่งฝนโปรยปรายฝนลงมาอย่างหนัก ไม่นาน....ไฟป่าก็ มอดดับลง.