ผมลาออกจากงานมา 4 เดือน ทำงานมา 9 ปี เงินเดือนล่าสุด 36,000 โบนัสเฉลี่ย 2 เดือน ประกันสุขภาพ เงินสะสม ภาระก่อนออกคือบ้านครับ ผ่อน 21,500 บาท แล้วก็พวกบัตรเครดิต เดือนชนเดือนตลอด อาศัยหางานพิเศษพวกรับจ้างขับรถ ให้เช่ารถพร้อมคนขับ ก็พอหมุนๆไปได้ เหตุที่ออกคือเบื่อครับ ความกดดัน เคพีไอ ก็เลยเริ่มวางแผนการเงินว่า ถ้าออกได้เงินสะสมแสนสี่ พอผ่อนบ้านได้ 5เดือน ฉะนั้นก็ใช้ 5 เดือนนี้ตามหาตัวเองและหาของที่จะขายให้เจอ
ณ ตอนนี้ไม่มีเงินเก็บเลย แต่ใช้จ่ายได้ตามปกติ จ่ายหนี้จ่ายบ้านจ่ายรถ กินเที่ยวได้มากขึ้นไม่ต้องตื่นเช้าเข้าเมืองไปทำงานเหมือนเมื่อก่อน เมื่อก่อนไปกลับบ้านที่ทำงาน 95 กิโลเมตร
(ตอนทำงานประจำก็ไม่มีเงินเก็บ เดือนชนเดือน ไม่มีเวลาเที่ยว ต้องใช้แบบประหยัด ตื่นเช้ากลับดึก) บางท่านอาจจะมองว่าการขายของรายได้ไม่แน่นอน จะเสี่ยงลาออกมาทำไม
สำหรับ ผม ความสบายใจมาก่อน และมีเวลา 5 เดือนในการหารายได้ทางใหม่จากเงินสะสมบริษัทเลยไม่เครียดเท่าไหร่ และบังเอิญขายดี เลยอยู่ได้ ถ้าหมดฝนคงดีกว่านี้ ที่ผ่านมาไปถึงแล้วก็ตั้งร้านไม่ได้ตั้งร้านเสร็จก็เก็บกลับ กำลังขายได้ ก็ต้องหนีฝน
ส่วนตลาดที่ขายมีมากมาย ผมอยู่แถวบางใหญ่ วิ่งตามชานเมือง เพราะในเมืองลูกค้าต่อราคาเยอะ ขายกันเยอะ ขายยากกว่าที่ๆ คือขาย เช่น
จันทร์ รพ.ทรวงอก บขส นครนายก ด่านช้างสุพรรณบุรี
อังคาร สองพี่น้องสุพรรณบุรี มธ.รังสิต สามกอ รพ.ชลประทาน
พุธ บางใหญ่ วัดไผ่โรงวัว
พฤหัส ลาดบัวหลวง ตลาดไท สระบุรี โรงพักปทุม
ศุกร์ โลตัสสุพรรณบุรี
เสาร์ พระประแดง ม.รังสิต
อาทิตย์ มหาชัย
กฟผ.บางกรวย วาโก้ เมืองทองทุกอาทิตย์ปลายเดือนต้นเดือน
ต้องลองเข้าลองตลาดดู ว่าที่ไหนลูกค้าเป็นยังไง กำลังซื้อแค่ไหน คู่แข่งเยอะไหม ตอนนี้ผมจะมีที่ๆ เข้าทุกอาทิตย์ 2 ที่ ที่เหลือก็วิ่งสลับๆกัน เพราะของฟุ่มเฟือยข้าบ่อยคนจะไม่ซื้อ
ตอนนี้ผมไม่ได้ขายเสื้อกับรองเท้าแล้วเพราะต้องไปเอาของ 3 ที่ ใช้การเสี่ยงขายอย่างเดียวแต่ลงของให้เต็มร้านดีกว่า เสื้อยังเหลือ 30 ตัว รองเท้า 200 คู่ หมดหน้าฝนจะเอาไปเล
ที่บอกตลาดหลายๆ ที่นี่ไม่ได้วิ่งรอกครับ แค่ยกตัวอย่างว่ามันมีที่ไหนบ้าง อย่างด่านช้างสุพรรณบุรีนี่ไปครั้งเดียว แล้วก็จะไปอีกทีหลังออกพรรษา เพราะเขาตัดอ้อยแล้ว มีเงินซื้อของกัน
ครั้งที่แล้วคนที่ซื้อคือ คนเชียงใหม่กลับมาเยี่ยมญาติแล้วซื้อครับ กำไรวันนั้นหักแล้วเหลือ 800 เอง ก็รอเข้าหลังออกพรรษาเลย สินค้าผมมันของฟุ่มเฟือยครับ ต้องคนชอบจริงๆ ถึงจะซื้อได้บ่อยๆ
ผมขายเสื้อยืดคอวีสีๆ รับมา 50บาท ขาย69 79 89 ตามไซร์ แล้วก็รองเท้ามือสองจากโรงเกลือ ทุน 60 ขาย120-180 ครับ กำไรต่อรอบที่ขายก็ประมาณ 500-1,500 บาทแล้วแต่ที่ โดยที่แฟนผมขายของที่ขายทุกวันนี้ เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย จับกลุ่มลูกค้าผู้หญิง โดยรวมต่อวันก็อยู่ที่ 2,000- 5,000 อยู่ที่แฟนผมว่าขายดีหรือไม่ กำไรที่ผ่านมาเฉลี่ยก็ 5-7 หมื่นบาทต่อเดือน แต่เอามาออกรถกระบะใหม่แล้วเพราะรถเก๋งเกียร์พังครับ ซึ่งจากที่ผ่านมา เฉลี่ยขายเดือนละ 15-18 วัน กำไรเกินห้าหมื่น และถ้าหมดหน้าฝนจะวิ่งขายได้เยอะขึ้น
ศุกร์นี้ต้องเข้า มธ เพราะเจ้าของตลาดที่สระบุรีให้เข้าไปช่วยที่นั่นบ้าง ไม่ได้เข้ามาเกือบเดือนแล้วหมดฝนได้ไปโลตัสแน่ครับ บขส นครนายก ขอหลังหน้าฝนครับ ไปแล้วฝนตก ไม่ได้ตั้งมาหลายครั้งแล้ว (ค่าที่เก็บก่อนด้วยนะ) ก่อนหน้านี้ใช้แกส ตกโลละ 1.4 บาท ตอนนี้ใช้กระบะ ก็เอาของไปได้เยอะขี้น น้ำมันก็เติมเต็ม หักจากกำไรไปเลย เช่นวันนี้กำไร 4,000 เติมเต็มสองพันกว่า เหลือบันทึกเป็นกำไรพันกว่า ผมดูกำไรเหลือโดยรวมและดูเรื่องฝน ถ้าฝนไม่ตก ไปก็คุ้ม ถ้าตกก็หาแถวบ้าน อย่างพรุ่งนี้ตลาดคลองถมสระบุรี ไปกลับ 200 โล ค่าน้ำมัน 600 บาท ค่าที่สองล้อกเช้าเย็น 280 บาท กินอีกสองร้อย รวมๆ แล้วพันต้นๆ ขายของแค่สองชิ้นก็ได้แล้วครับ ขายในเต้นใหญ่ไม่ต้องกลัวฝน แต่ถ้าเป็นวันศุกร์ถึงอาทิตย์ มีแค่ช่วงบ่าย ค่าที่สองล็อก 400 แต่กลุ่มลูกค้ามีกำลังสูงกว่า อยากลองเหมือนกัน แต่ที่หายากมาก
รองเท้ามือสอง คนที่เข้ามาซื้อบอกผมว่ารองเท้าร้านพี่สวย ไม่เหมือนใคร ชอบสินค้ามันก็ขายตัวเองได้เลย โดยไม่ต้องพูดเยอะผมเอาไปขายที่มวกเหล็ก คนมุงมากมายแต่พอไปตามมหาลัยกลับไม่มีใครสนใจถ้าของเราดี ยังไงก็ต้องเจอเจ้าของซักวันครับ ถ้าเป็นคัชชูส้นสูง ทุน 25-30 บาท แต่ถ้าเป็นแบบที่ผมขาย ทุน 60 บาทครับ ขายที่ราคา 150 ครับ พอนานเข้าก็ลดลง 100-120แต่ต้องเก็บต้องจัดวาง พอฝนลงก็เก็บไม่ทันครับ ผมเลยพักไว้ก่อน หมดฝนค่อยว่ากันแต่ถ้ารองเท้าผู้ชายแบบยี่ห้อ ทุนประมาณ 400 ครับ ขายกัน 5-800 ครับ เคยซื้อดีเซลจากตลาดนินจา มา 500 บาท ทุนน่าจะมา 300วงการนี้ต้องเข้าถึงแหล่งครับ ผมเลยมาเล่นรองเท้าผู้หญิง หาง่ายกว่ามีร้านประจำที่โรงเกลือ สั่งให้เขาเก็บไว้ได้แบบสวยๆสามารถเปิดราคา 250 ได้เลยครับ โซนปทุมที่เขาว่ากันว่าดีก็โรงพักปทุมวัน พุธพฤหัสแล้วก็ มธ อินเตอร์ วันพฤหัส ม.รังสิตวันเสาร์อาทิตย์
ใครอยากลองมีอาชีพเสริมขายของตามตลาด เริ่มจากเก็บของในบ้านไปขายก่อน แล้วดูๆว่าเราถนัดอะไร แล้วค่อยขยับขยายครับ งานอะไรที่เราทำแล้วมีความสุข สนุกกับมัน ก็ลุยให้เต็มที่ครับมีอิสระ ไม่เครียด มีเวลาให้พ่อแม่พี่น้อง ไม่ต้องรอแค่วันหยุด หยุดได้ทุกวันที่อยากหยุดแค่นี้แหละครับที่ผมต้องการ ก้าวแรกไม่ยากครับ ถ้ามีข้อมูลมีแผน 1 2 3 รองรับสินค้าที่ขาย ขายยากหรือง่าย ตามแฟชั่นหรือเปล่า มีไซร์เข้ามาเกี่ยวมั้ยจะวางสินค้าเราที่ตรงไหน ถ้าจะขายสูงกว่าเขาในตลาด อะไรคือจุดที่ให้เราเล่นราคาได้หรือจะขายเน้นจำนวนกำไรน้อย หรือไม่เน้นจำนวนแต่เน้นคุณภาพถ้าขายไม่ได้จะเอาสินค้านั้นไปทำอะไร ทุกอย่างต้องคิดรองรับครับ จะคิดแค่ว่าเห็นเขาขายดี คิดว่าขายง่ายก็เอามาขายบ้างมันไม่ได้
กำไร ก็ต้องอยู่ได้ตามราคาตลาดทั่วไป จะไปขายถูกกว่าก็ทำราคาเสีย ขายแพงก็ขายไม่ได้เช่นข้าวมันไก่ทุนต่อจานที่ 20 บาท ขายเรา 30 กำไร 50% แล้ว ข้าวกิน 3 มื้อ ขายได้ตลอดคนต้องกินแต่ของฟุ่มเฟือย บางคนมีแค่ชิ้นเดียว พังแล้วค่อยซื้อใหม่ บางคนซื้อเดือนละชิ้น ซึ่งเทียบไม่ได้เลยถ้าจะขายกำไรแค่ 50%อย่างแว่นตาตามร้าน กำไรกัน 3-400% เพราะมันไม่ได้ซื้อกันทุกเดือนฉะนั้นจะขายอะไรต้องคิดว่าทุนเราเท่าไหร่ แหล่งจากไหน กำไรเป็นอย่างไร ต้องขายกี่ชิ้นถึงจะอยู่ได้ถ้าขายไม่ได้จะลดราคายังงัย หรือบางทีของเราเีแต่ไม่เหมาะกับตลาดนั้นๆก็ได้ อย่าเพิ่งท้อ
ตลาดชานเมือง ต่างจังหวัดของเล่นเสื้อผ้าเด็กขายได้ครับ เคยเห็นเขาขายรับมาตัวละ 10 ขาย 20 แล้วขายดีด้วย ทุนน้อยเท่าที่เห็นน่าจะขายรอบนึงเกิน 100 ตัวครับส่วนของเล่นเคยเห็นเขาขายตุ๊กตามือสองจากโรงเกลือ รับมาเป็นกระสอบ แล้วมาแยกขนาดขายจับราคาเองก็พอได้อยู่ แต่รถที่ขนของไปต้องใหญ่ เพราะถ้าของน้อย มันจะดูไม่น่าเลือก ส่วนของเล่นตัวผมเองเคยคิดจะขาย แต่วิเคราะห์แล้วว่าเราไม่ถนัด ไม่รู้จักว่าอะไรชื่ออะไร หรือของอะไรเล่นยังงัยมันต้องเริ่มใหม่เยอะครับ เลยเอาของที่มันขายตัวมันเองดีกว่า
แบ่งปันโดย..Red_Arsenal